กลุ่มเป้าหมาย สำหรับ Line Ads
กลุ่มเป้าหมาย สำหรับ Line Ads เพื่อใช้โปรโมท สินค้า บริการ ทาง Line โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ ที่สามารถซื้อได้ ทุกประเภทสินค้า ทุกบริการ

กลุ่มเป้าหมาย สำหรับ Line Ads คืออะไร?
- เป็นบริการข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย ของคนที่มีกำลังซื้อ และมี Value สูง ที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นกลุ่มเป้าหมาย สำหรับใช้ในการยิงแอดโฆษณา ทาง Line Ads โดยเฉพาะ ทำให้คุณส่งโปรโมทสินค้า ไปถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตรงเป้า ตรงกลุ่มจริงๆ และ ที่สำคัญเป็นคนจริงๆ ไม่มีที่เป็นพวก Robot/Bot/Avatar อย่างแน่นอน
- โดยผู้ซื้อ จะได้ข้อมูลแบบเข้ารหัส เพื่อเป็นไปตามกฎหมาย PDPA โดยระบบจะส่งข้อมูลให้ท่านในรูปแบบที่ Hash (เข้ารหัส) ด้วย Algorithm SHA-256 โดยผู้ใช้บริการที่สั่งซื้อ จะได้รับข้อมูลกลุ่มเป้าหมายจากเราทาง Email เพื่อให้ท่าน Download แล้วนำ File ที่เราส่งให้ Upload ขึ้น Line Ads เพื่อนำไปเป็นกลุ่มเป้าหมาย เพื่อใช้ส่งโปรโมทได้เลย
ตัวอย่างด้านล่างนี้ คือข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย Line Ads ที่ถูกเข้ารหัสข้อมูลด้วย Hash Algorithm SHA-256
- ตัวอย่างด้านล่างนี้ คือข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ถูกเข้ารหัสข้อมูลด้วย Hash Algorithm SHA-256 ดังนั้นผู้ใช้บริการ ไม่สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการ โทรหา หรือ ส่ง Email หรือ ส่ง SMS หาได้ และ ผู้ใช้บริการจะไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากข้อมูลถูกเข้ารหัสแล้ว แต่ข้อมูลดังกล่าว เมื่อถูก Upload เข้า Line Ads แล้ว Platform นั้นจะสามารถรู้ได้ว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นใคร เพราะ Platform เหล่านั้นจะมี Algorithm ในการ Matching ว่าเป็นใคร

กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ เอามาจากไหน?
เราใช้ AI Robot มากกว่า 1,000 ตัว ทำงานอยู่บน Server ของเรา ทำงานตลอด 24 ชม.ทุกวัน เพื่อไปเก็บข้อมูลทุกเว็บในประเทศไทย ทุก Social Media ทุกวัน และ Update ข้อมูลใน Big Data ของเราทุกวัน ทำให้ข้อมูลสด และ ใหม่ทุกวัน โดยระบบ Big Data ของเราทะยอยเก็บข้อมูลมาแล้วกว่า 7 ปี

ระบบของเราจะทำงาน 3 ขั้นตอน ดังนี้
ในการดึงข้อมูลจาก Data Source ต่างๆที่อยู่ในระบบ Internet ทุกวัน
- Dig BOT : ส่วนนี้ทำหน้าที่เป็น Engine ทำงานอัตโนมัติ เราใช้ BOT กว่า 1,000 ตัว ที่ทำงานบน Server ของเรา ที่ทำงานทุกวัน ตลอด 24 ชม.ไม่มีวันหยุด เพื่อไปเก็บข้อมูลจากที่ต่างๆในระบบ Internet ทุกวัน เช่นจาก ทุก Web ในประเทศไทย, ทุก Directory ต่างๆในประเทศไทย, ทุก Social Media, ทุก Web board, Board, Message, Magazine, Paper, ทุก Post, News, Contact , Book, Video, Image, TV, IoT และ อื่นๆ อีกมากมาย และ นำข้อมูล (Data Source) ดังกล่าวเข้าไปยังฐานข้อมูล Big Data Staging ของเราที่ทำงานบน Cloud Computing และ หลังจากนั้นระบบ Customer Data Platform (CDP) ของเรา จะทำการ Transform ข้อมูลดังกล่าว และนำไปเก็บไว้ยังฐานข้อมูล Data Hub เพื่อใช้ในการทำการตลาดต่อผ่านช่องทางต่างๆต่อไป
- Spotlight BOT : ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลด้วย Server ของเรา และทำการจัด Personalized ข้อมูลของแต่ละคน จัดระดับศักยภาพของข้อมูล จัดระดับความสามารถที่จะซื้อสินค้า หรือ บริการราคาเท่าไรขึ้นไปได้บ้าง เช่น ชือ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เบอร์มือถือ อีเมล์ ตำแหน่ง อาชีพ เพศ ประมาณอายุ ประมาณอายุงาน ประมาณรายได้ ประมาณความมั่งคั่ง ประมาณทรัพย์สินอยู่ในจังหวัด อำเภอ ตำบล ความชื่นชอบ/ความสนใจ ใช้สินค้าอะไรบ้าง ใช้รถอะไรบ้าง เคยค้นหาอะไรบ้าง เคยเปิดดูอะไรบ้าง และอื่นๆอีกมากมาย หลังจากนั้นจะทำการ Transform ข้อมูลต่างๆไปเก็บใน Data Hub ของเรา เพื่อให้บริการลูกค้าต่อไป
- Data Hub : ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่ได้จากการทำงานของ Spotlight Bot เช่น ข้อมูล Personalized Data, Mobile Phone Number, Line ID, Address, Corporate Data, Email Address, Telephone Data, Interest, Engagement, Website Visit, Product Visit, Service Visit, Behavior Data และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อนำไปใช้งานเป็นข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย ในการโปรโมทผ่านช่องทาง Line
ข้อดี ทำไมต้องใช้ กลุ่มเป้าหมายจากเรา
- เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ระบบ Big Data ของเราประมวลผล เลือกมา เฉพาะผู้ที่มีกำลังซื้อ ที่มีศักยภาพที่ซื้อสินค้าทุกประเภท ทุกบริการ ทุกราคา หรือซื้ออสังหาฯ ประกัน รถยนต์ หรือ ซื้อของที่มีราคาสูง ทำให้การโปรโมทมีประสิทธิภาพมากที่สุด ได้ผลมากที่สุด ใช้งบประมาณน้อยที่สุด ทำให้คุ้มค่ามากที่สุด หากใช้กลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่ในแต่ละ Platform ข้อมูลจะมีจำนวนเยอะเกินไป กลุ่มเป้าหมายกว้างไป ทำให้ต้องเสียเงินค่าโฆษณาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถขายได้
- ซื้อเพียงครั้งเดียว สามารถนำไปใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายขายสินค้า หรือ บริการอะไรก็ได้ ที่ Line Ads โดยไม่มีหมดอายุ
ข้อเสีย หากคุณใช้กลุ่มเป้าหมายจาก Platform นั้นๆ
- หากคุณใช้กลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่ในแต่ละ Platform ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายมีจำนวนเยอะเกินไป, กลุ่มเป้าหมายกว้างไป ทำให้ต้องเสียเงินค่าโฆษณาเป็นจำนวนมาก เพื่อส่งให้พวกเขาเห็นทั้งหมด แต่ขายได้น้อย เพราะเข้าไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
- หากคุณยิงแอดไปทาง Line มี Category / Group ของกลุ่มเป้าหมายให้เลือกน้อยมาก ทำให้กลุ่มเป้าหมายกว้างเกินไป ยิงแอดไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะเข้าไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย อีกแล้ว
- กลุมเป้าหมายจาก Platform ต่างๆ พบว่าเป็นคนจริงๆ ประมาณ 60-70% เท่านั้น ที่เหลือเป็นพวก Bot

ราคากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย สำหรับ Line Ads ราคาเพียง 15,000 บาท ผู้ซื้อจะได้รับข้อมูลกลุ่มเป้าหมายจำนวน 400,000 คน โดยภายในกลุ่มเป้าหมายจำนวน 400,000 คนนั้น จะประกอบไปด้วยกลุ่มเป้าหมายย่อย จำนวน 153 กลุ่มที่ผสมรวมกัน เพื่อเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพซื้อได้ทุกประเภทสินค้า ทุกประเภทบริการ
เทคนิคลับการโฆษณา ทำอย่างไรให้ปัง ?
- เลือกรูปโฆษณาสำหรับการยิงแอดให้ดี
- เพราะผลลัพธ์การยิงแอดใน Google, Line, Facebook ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับรูปโฆษณาที่พร้อมจะดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้า ดังนั้นหัวใจสำคัญของการทำรูปโฆษณาจึงต้องมีเทคนิคในการเลือกใช้รูป เช่น ใช้รูปที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากคนอื่น, ใช้รูปที่สื่อถึงอารมณ์ได้ดี, ใช้รูปที่มีความแปลกใหม่
- ศึกษากลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าสำหรับการยิงแอดให้ตรงจุด
- เพราะก่อนที่จะเริ่มทำการยิงแอด ควรจะต้องทำการบ้านก่อน โดยต้องศึกษาถึงรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีและต้องเข้าใจว่าลูกค้าของเราเป็นใคร ต้องการอะไร มีความสนใจอะไรบ้าง เพื่อที่จะทำรูปโฆษณาให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าอยากเห็นนั่นเอง
- ไม่ควรแก้ไขการยิงแอดหรือการทำโฆษณาบ่อยเกินไป
- เหตุผลที่ไม่ควรปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขการทำโฆษณาบ่อยจนเกินไป และควรจะปล่อยให้โฆษณารันเองอย่างน้อย 2 – 3 วันไปก่อน เพราะบางทีกลุ่มลูกค้าตัวจริงของเราอาจจะยังไม่เห็นโฆษณาที่เราทำการยิงแอดไปก็ได้ หากทำการแก้ไขบ่อย ๆ ก็จะยิ่งเป็นการเสียโอกาส และอาจทำให้การยิงแอดไม่ประสบความสำเร็จตามที่เราหวังไว้
- ไม่ควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายการยิงแอดกว้างเกินไป
- เพราะจริง ๆ แล้วการยิงแอดแบบเจาะจงความสนใจในวงกว้าง ไม่ได้แปลว่าจะทำให้ประสิทธิภาพดีแบบที่หลาย ๆ คนคิด เพราะตามระบบของ Google, Line, Facebook ควรจะต้องรวบรวมความสนใจให้เฉพาะเจาะจงอย่างน้อย 3 อย่างขึ้นไป เพื่อที่จะได้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนที่สนใจโฆษณาของเราแบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่ได้ทำการยิงแอดแบบหว่านแหในวงกว้างนั่นเอง
กลุ่มเป้าหมาย มีกี่ประเภท ?
- กลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง หรือ Core Audience
- กลุ่มเป้าหมายเป็นใครก็ได้บนโลกใบนี้ที่ใช้งาน Google, Line, Facebook แต่ในระบบก็จะมีเกณฑ์ในการเลือกมาให้ เพื่อให้คุณได้คัดกรองกลุ่มเป้าหมายให้ตรงสเปคมากที่สุด ซึ่งเกณฑ์ในการคัดเลือกก็จะประกอบไปด้วย สถานที่ ข้อมูลประชากรศาสตร์ ความสนใจ พฤติกรรม
- กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง หรือ Custom Audience
- กลุ่มเป้าหมายประเภทนี้ เปรียบเสมือนฐานข้อมูลที่คุณมีอยู่แล้วในรูปแบบต่าง ๆ และนำมาใช้สร้างเป็นกลุ่มเป้าหมายเพื่อทำโฆษณา เช่น กลุ่มเป้าหมายจาก Facebook Fanpage เช่น คนที่กดถูกใจเพจ, คนที่เคยทัก Inbox, คนที่เคยเปิด Lead Form, คนที่เคยชมวิดีโอ กลุ่มเป้าหมายจาก Instagram เช่น กลุ่มผู้ติดตาม, คนที่เคยทัก Direct Message, คนที่เคย Engage กลุ่มเป้าหมายจากผู้เข้าชม Website โดยเก็บข้อมูลผ่าน Facebook Pixel กลุ่มเป้าหมายจากผู้ใช้ Application โดยเก็บข้อมูลผ่านการติดตั้ง Facebook SDK กลุ่มเป้าหมายจากไฟล์ข้อมูล เช่น Email หรือ เบอร์โทรศัพท์
- กลุ่มเป้าหมายแบบคล้ายคลึงกัน หรือ Lookalike Audience
- สำหรับธุรกิจที่มีการสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง หรือ Custom Audience ไว้แล้ว คุณสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึงกันจากต้นฉบับได้ โดยระบบของ Google, Line, Facebook จะศึกษาพฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายต้นฉบับ และไปหาคนที่มีโปรไฟล์คล้ายคลึงกันมาให้ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการสร้าง Lookalike กี่เปอร์เซ็นต์
คำถามที่ถามบ่อย
- การยิงแอดคืออะไร ?
- คำว่า “แอด” ย่อมาจาก “Advertising” คือการซื้อโฆษณา Google, Facebook, Line หรือ Platform อื่นๆ เพื่อโปรโมทสินค้า/บริการ ให้กลุ่มเป้าหมายของเรา รู้จัก สั่งซื้อ หรือจดจำสินค้าของเราได้ เปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนกับที่แบรนด์ต่างซื้อโฆษณาในทีวี เพื่อให้ผู้ชมอย่างเราเห็นค่ะ
- Google Display Network (GDN) คืออะไร ?
- เว็บไซต์ต่างๆที่มีพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์และได้มาร่วมมือ กับทาง Google หากผู้ใช้ Google Adwords ได้เลือกให้แคมเปญแสดงบนเครือข่าย Google Display Network (GDN) โฆษณาของพวกคุณจะไม่ได้ขึ้นแค่เพียงเว็บไซต์ของทาง Google เพียงอย่างเดียว แต่จะแสดงไปตามเว็บไซต์ต่างๆด้วย ตัวอย่างเช่น (Youtube,Blogspot,เว็บหนังสือพิมพ์ออนไลน์,เว็บรีวิวเครื่องสำอาง,เว็บสินค้าออนไลน์,เว็บฟังเพลง และ เว็บอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย)
- GDN ทำงานยังไงบ้าง ?
- GDN ช่วยนำส่งโฆษณาถึงกลุ่มเป้าหมายตามที่เราตั้งค่าไว้ ส่วนใหญ่เน้นในเรื่องของ Brand Awareness เป็นส่วนใหญ่ เพื่อตอกย้ำถึงแบรนด์ ให้ผู้คนจดจำสินค้า และทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในระยะเวลาที่รวดเร็ว โดยที่ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกการนำส่งโฆษณาได้ตามลักษณะที่ต้องการดังนี้
- ประเภทของเว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์รีวิวเครื่องสำอาง, แฟชั่น , หนังสือพิมพ์ออนไลน์ , ท่องเที่ยว เป็นต้น
- อายุ เพศ ที่ต้องการให้เห็น Banner
- Location ของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ร้านอาหารย่านบางรัก ก็ตั้งให้นำส่งโฆษณาถึงคนละแวกใกล้เคียง
- วันและเวลาของการนำส่งโฆษณา เช่น เปิดให้โฆษณาทำงานทุกวันเวลา 6.00-23.00 น.
- ความถี่ของโฆษณา เช่น ให้กลุ่มเป้าหมายเห็น Banner ของเราวันละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรำคาญมากจนเกินไป
- GDN ช่วยนำส่งโฆษณาถึงกลุ่มเป้าหมายตามที่เราตั้งค่าไว้ ส่วนใหญ่เน้นในเรื่องของ Brand Awareness เป็นส่วนใหญ่ เพื่อตอกย้ำถึงแบรนด์ ให้ผู้คนจดจำสินค้า และทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในระยะเวลาที่รวดเร็ว โดยที่ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกการนำส่งโฆษณาได้ตามลักษณะที่ต้องการดังนี้
- ข้อดีของการทำ GDN
- โฆษณาเป็นแบบรูปภาพ ทำให้สร้างการจดจำได้ง่าย
- เข้าถึงคนหลักล้านได้ในงบหลักพัน
- เป็นโฆษณาที่ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน แค่ทำภาพขนาดตรงกับที่ทาง Google ต้องการก็ทำได้แล้ว
- เหมาะสำหรับการทำ Re-Marketing ให้ลูกค้าเห็นเราซ้ำ ๆ จากหลาย ๆ เว็บไซต์ที่พวกเขาเข้าชมประจำ ซึ่งเป็นหนึ่งในจิตวิทยาที่ทำให้แบรนด์นั้นดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
- โฆษณา GDN (GOOGLE DISPLAY NETWORK) แสดงผลในหน้าเว็บฯ ได้มากมายหลายวิธี
- Keyword Contextual Targeting
- การทำโฆษณา GDN ประเภทนี้จะเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่เราตั้งค่าไว้โดยตรง เช่น หากเราตั้งค่า คีย์เวิร์ดคำว่า “อาหารออร์แกนิก” ไว้ในตัวโฆษณา เมื่อมีผู้ใช้งานค้นหาคำนี้ และได้เข้ามาในหน้าเว็บไซต์ที่มีคีย์เวิร์ดคำนี้อยู่ โฆษณาของเราก็จะมาแสดงให้กลุ่มเป้าหมายเห็นในหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ ด้วย
- Remarketing
- หลักการทำโฆษณา Google Display Ads เมื่อกลุ่มเป้าหมายเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ที่มีการฝังโค้ดของ Remarketing เอาไว้ ระบบจะทำการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานคนนั้น ๆ จากนั้นเมื่อกลุ่มเป้าหมายเข้าไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ โฆษณา GDN ของเราที่ทำการฝังโค้ด Remarketing เอาไว้ ก็จะขึ้นแสดงผลเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาของเราอีก เรียกว่า เป็นการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อให้โฆษณา GDN ได้ตามติด และแสดงให้กลุ่มเป้าหมายเห็นจนพวกเขาอยากจะซื้อสินค้าในที่สุด
- Topic Targeting
- การทำโฆษณา GDN วิธีนี้ สามารถเลือกลงโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมาย (Target) และตามหัวข้อ (Topic) ได้ ตัวอย่างเช่น เจ้าของแบรนด์ขายสินค้าประเภทอาหารออร์แกนิก สามารถกำหนดตัวโฆษณาให้ไปแสดงผลยังเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารออร์แกนิกหรือการรักษาสุขภาพได้ แต่ทั้งนี้ จะไม่สามารถเลือกได้แบบเจาะจงว่าเป็นเว็บไซต์ใด แต่การเลือกแสดงผลโฆษณาด้วยวิธีนี้ จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายที่สนใจในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ มองเห็นและสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของเราได้ง่ายขึ้น
- Placement Targeting
- การทำโฆษณา GDN วิธีนี้จะตรงข้ามกับวิธี Topic Targeting โดยสิ้นเชิง เพราะจะเป็นวิธีที่สามารถเจาะจงเว็บไซต์เป้าหมายที่จะให้โฆษณาไปแสดงได้ โดยเจ้าของธุรกิจอาจต้องเลือกเว็บไซต์ที่เป็นฐานกลุ่มลูกค้าหรือเลือกเว็บฯ ที่มีลูกค้าเข้าถึงเป็นจำนวนมาก เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น เพราะการระบุเว็บไซต์สามารถให้แผนทางการตลาดของแต่ละสินค้าและบริการเป็นไปตามเป้าหมายได้
- Keyword Contextual Targeting
- GDN VS SEM แตกต่างกันอย่างไร?
- Google Search หรือ SEM คือ การทำโฆษณาบนระบบ Search
- Google Display Network หรือ GDN
- โดยทั้ง 2 รูปแบบมีจุดเด่นต่างกัน โดย Google Search คือการทำโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์ที่เราจ่ายเงินโชว์ในหน้าแสดงรายการ SERP ของ Google เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่ค้นหาคีย์เวิร์ดสามารถเจอเว็บไซต์ของเราเป็นลำดับแรก ๆ ส่วน GDN คือ การลงโฆษณาในรูปแบบ Text Ads และ Display Ads ผ่านทางเว็บไซต์ที่เราเพิ่งกล่าวไป แต่ถึงแม้โฆษณาทั้งสองรูปแบบจะมีปลายทางการแสดงผลต่างกัน แต่ก็สามารถช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ ซึ่งหากว่าแบรนด์ของคุณมีงบประมาณมากพอ ก็ควรที่จะลงโฆษณาทั้งแบบ GDN และ SEM เพราะเมื่อคนได้เห็นแบรนด์หรือสินค้าผ่านแบนเนอร์ต่าง ๆ ในเว็บไซต์บ่อยครั้งเท่าไหร่ ก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะเกิดการจดจำและค้นหาชื่อแบรนด์สินค้าของคุณผ่าน Search Engine ทำให้เพิ่มโอกาสในการเพิ่มยอดขายให้เพิ่มขึ้น
ความรู้เกี่ยวกับ การโฆษณาผ่านไลน์แอด
รู้จักการโฆษณาผ่าน LINE Ads
วิธีการลงโฆษณา LINE Ads ด้วยตนเอง
5 สูตรสำเร็จการลงโฆษณาบนไลน์
แนะนำบริการ
SEO Review

รับรีวิวสินค้า ให้ขึ้นแสดงหน้าแรก ในการค้นหาของ Google และ Bing ด้วยการทำ SEO โดยที่ท่านไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณา หรือค่ายิงแอด สร้างโอกาสให้ท่านขายสินค้าได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาให้เปลืองเงิน ค่าบริการเพียงหลักพัน เท่านั้น
- ใส่รายละเอียดได้ไม่เกิน 2,000 ตัวอักษร
- ขึ้นแสดงหน้าแรกๆของ Google, Bing ได้เร็วกว่า SEO Post โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
- ใส่รูปได้ 1 รูป
- ไม่สามารถใส่ Video ได้
- อายุของ Sale Page 2 ปี เมื่อใกล้หมดอายุ ระบบจะแจ้งเตือนไปที่ท่าน เพื่อให้ท่านพิจารณาต่ออายุ หรือไม่
- ค่าบริการ 1500 บาท
SEO Sale Page

รับทำ Sale Page สำหรับขายสินค้าโดยเฉพาะ โดยทำให้ Sale Page ประกาศขายสินค้านั้น ขึ้นแสดงหน้าแรก ในการค้นหาของ Google และ Bing ด้วยการทำ SEO ทำให้ขายได้เร็ว โดยที่ท่านไม่ต้องเสียค่าโฆษณา
- ใส่รายละเอียดได้ไม่เกิน 2,000 ตัวอักษร
- ขึ้นแสดงหน้าแรกๆของ Google, Bing ได้เร็วกว่า SEO Post โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
- ใส่รูปได้ไม่เกิน 10 รูป
- ใส่ Video ได้ 1 Video
- อายุของ Sale Page 2 ปี เมื่อใกล้หมดอายุ ระบบจะแจ้งเตือนไปที่ท่าน เพื่อให้ท่านพิจารณาต่ออายุ หรือไม่
- ค่าบริการ 1500 บาท
SEO Post

รับทำ SEO Post โดยใช้ SEO ทำให้ Post ขายสินค้าของคุณ ขึ้นแสดงหน้าแรก ในการค้นหาของ Google และ Bing โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา ทำให้สินค้าของคุณขายได้เร็วกว่าใคร
- ใส่รายละเอียดได้ไม่เกิน 500 ตัวอักษร
- ขึ้นแสดงหน้าแรกๆของ Google, Bing ได้เร็วกว่า SEO Post โดยใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน
- ใส่รูปได้ 1 รูป
- ไม่สามารถใส่ Video ได้
- อายุ Post 1 ปี เมื่อใกล้หมดอายุ ระบบจะแจ้งเตือนไปที่ท่าน เพื่อให้ท่านพิจารณาต่ออายุ หรือไม่
- ค่าบริการ 500 บาท